Joomla gallery by joomlashine.com
flash
001.jpg
02.jpg
03.jpg
04.jpg
05.jpg
06.jpg
07.jpg
08.jpg
ผู้ใช้น้ำส่วนใหญ่มักมีพฤติกรรมการใช้น้ำฟุ่มเฟือย ควรเปลี่ยนวิธีการใช้น้ำตามความ เคยชิน มาเป็นการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า ไม่ปล่อย ให้น้ำไหลทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์ จะเป็นการประหยัด ค่าน้ำได้มาก
1. การใช้น้ำให้ประหยัดและถูกวิธี
(1) การอาบน้ำ
การใช้ฝักบัวจะสิ้นเปลืองน้ำน้อยที่สุด รูฝักบัว ยิ่งเล็ก ยิ่งประหยัดน้ำ ปิดฝักบัวในขณะที่ถูสบู่ จะใช้น้ำเพียง 30 ลิตร หากไม่ปิดจะใช้น้ำถึง 90 ลิตร และหากใช้อ่างอาบน้ำจะใช้น้ำถึง 110-3624 ลิตร
(2) การโกนหนวด
โกนหนวดแล้วใช้กระดาษเช็ดก่อน จึงใช้น้ำ จากแก้วมาล้างอีกครั้ง ล้างมีดโกนหนวดโดยการ จุ่มล้างในแก้ว จะประหยัดกว่าล้างโดยตรงจากก๊อก
(3) การแปรงฟัน
การใช้น้ำบ้วนปากและแปรงฟันโดยใช้แก้ว จะใช้น้ำเพียง 0.51 ลิตร การปล่อยให้น้ำไหล จากก๊อกตลอดการ แปรงฟัน จะใช้น้ำถึง 20-30 ลิตรต่อครั้ง
(4) การใช้ชักโครก
การใช้ชักโครกจะใช้น้ำถึง 8?12 ลิตร ต่อครั้ง เพื่อการประหยัด ควรใช้ถุงบรรจุน้ำมาใส่ในโถน้ำ เพื่อลดการใช้น้ำ โถส้วมแบบตักราดจะสิ้นเปลืองน้ำน้อยกว่าแบบชักโครกหลายเท่า หากใช้ชักโครก ควรติดตั้งโถปัสสาวะและโถส้วมแยกจากกัน
(5) การซักผ้า
ขณะทำการซักผ้าไม่ควรเปิดน้ำทิ้งไว้ตลอดเวลา จะเสียน้ำถึง 9 ลิตร/นาที ควรรวบรวมผ้าให้ได้ มากพอต่อการซักแต่ละครั้ง ทั้งการซักด้วยมือและเครื่องซักผ้า
(6) การล้างถ้วยชามภาชนะ
ใช้กระดาษเช็ดคราบสกปรก ออกก่อน แล้วล้างพร้อมกันในอ่างน้ำ จะประหยัดเวลาประหยัดน้ำ และให้ความสะอาดมากกว่าล้างจากก๊อกโดยตรง ซึ่งจะสิ้นเปลืองน้ำ 9 ลิตร/นาที
(7) การล้างผักผลไม้
ใช้ภาชนะรองน้ำเท่าที่จำเป็น ล้างผัก ผลไม้ ได้สะอาดและประหยัดกว่าเปิดล้างจากก๊อกโดยตรง ถ้าเป็น ภาชนะที่ยกย้ายได้ ยังนำน้ำไปรดต้นไม้ได้ด้วย
(8) การเช็ดพื้น
ควรใช้ภาชนะรองน้ำและซักล้างอุปกรณ์ใน ภาชนะก่อนที่จะนำไปเช็ดถู จะใช้น้ำน้อยกว่า การใช้สายยางฉีดล้างทำ ความสะอาดพื้นโดยตรง
(9) การรดน้ำต้นไม้
ควรใช้ฝักบัวรดน้ำต้นไม้แทนการใช้ สายยางต่อจากก๊อกน้ำโดยตรง หากเป็นพื้นที่บริเวณกว้าง ก็ควรใช้ สปริงเกลอร์ หรือใช้น้ำที่เหลือจากกิจกรรมอื่นมารดต้นไม้ ก็จะช่วย ประหยัดน้ำลงได้
(10) การล้างรถ
ควรรองน้ำใส่ภาชนะ เช่น ถังน้ำ แล้วใช้ผ้าหรือ เครื่องมือล้างรถจุ่มน้ำลงในถัง เพื่อเช็ดทำความสะอาดแทนการ ใช้สายยางฉีดน้ำโดยตรง ซึ่งจะเสียน้ำเป็นปริมาณมากถึง 150-3624 ลิตร/ครั้ง หากสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเป็นการใช้น้ำที่ควรใช้จริง อย่างถูกวิธี ไม่เปิดน้ำทิ้งระหว่างการใช้น้ำหรือปล่อยให้น้ำล้น จะ สามารถลดการใช้น้ำได้ถึง 20-50 % ทีเดียว
2. ตรวจสอบการแตกรั่วของระบบประปาในอาคาร
การตรวจสอบการแตกรั่วของท่อและอุปกรณ์ประปาภายใน อาคารทำได้ดังนี้
(1) ปิดก๊อกน้ำทุกจุดในอาคาร สังเกตดูหน้าปัดมาตรวัดน้ำ หากมีการเคลื่อนไหวของตัวเลขแสดงว่ามีการแตกรั่วของท่อและอุปกรณ์ เกิดขึ้น
(2) ตรวจดูก๊อกน้ำ ฝักบัว เครื่องซักผ้า ทุกตัว หากพบว่า เมื่อปิด สนิทไม่มีการใช้น้ำแต่ยังมีน้ำรั่วซึมออกมา ให้รีบทำการซ่อมแซมทันที
(3) ใส่สารย้อมผ้าลงในถังพักน้ำของโถชักโครก แล้วสังเกตดู หากมีน้ำสีย้อมผ้าไหลลงโถชักโครก แสดงว่ามีปัญหาการรั่วไหลของ ตัวปิด-เปิดน้ำชักโครก ควรรีบทำการซ่อมแซมทันที
(4) หากพบว่ามีน้ำเปียกนองอยู่ตลอดเวลาที่พื้นข้างอาคาร หรือมีน้ำผุดให้เห็น แสดงว่ามีการแตกรั่ว ของท่อประปาในบริเวณนั้น
ข้อแนะนำที่จะให้ผู้ใช้น้ำสามารถตรวจสอบการแตกรั่วของระบบ ประปาในอาคารได้โดยสะดวก และสามารถเห็นได้ง่ายยิ่งขึ้นหากมีการ รั่วไหล ก็คือ การวางท่อประปาและอุปกรณ์ประปาต่าง ๆ ไว้เหนือพื้นดิน ที่ไม่ให้น้ำท่วมถึงได้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพพื้นที่ของอาคารสถานที่นั้นด้วย เท่ากับเป็นการประหยัดเงิน ไม่ปล่อยให้รั่วไหลไปตามน้ำ
การสูญเสียน้ำจากการรั่วไหล
- ก๊อกน้ำมีน้ำหยดตลอดเวลา จะสูญเสียน้ำถึง 1,500 ลิตร (1.5 ลูกบาศก์เมตร) ต่อเดือน
- ก๊อกน้ำที่ปิดไม่สนิท น้ำรั่วไหลเป็นสาย จะสูญเสียน้ำไม่น้อย กว่า 10 ลูกบาศก์เมตรต่อเดือน
- ชักโครกที่ลูกลอยปิดไม่สนิท มีน้ำไหลลงโถส้วมตลอดเวลา จะสูญเสียน้ำกว่า 30 ลูกบาศก์เมตรต่อเดือน
การรั่วไหลที่อาจจะดูเล็กน้อย แต่เป็นการไหลของน้ำที่ต่อเนื่อง ตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อคิดเป็นปริมาณ น้ำต่อเดือนอาจจะสูงกว่า ปริมาณน้ำใช้ปกติ จากการสำรวจการใช้น้ำในอาคารบ้านเรือน พบว่าน้ำที่รั่วไหล โดยมิได้ใช้ประโยชน์โดยเฉลี่ยสูงถึง 30 เปอร์เซ็นต์ หากช่วยกันสังเกต ดูแล และแก้ไข ก็จะประหยัด ทั้งเงินค่าน้ำ และทรัพยากรน้ำ
บริการประชาชน